ประวัติบุคคลสำคัญของคอมพิวเตอร์
1. บุคคลต่อไปนี้ มีความสำคัญอย่างไร ในประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ จงอธิบายโดยระบุถึงปีที่เกิดเหตุการณ์ และผลงานที่สำคัญ
1. Charles Babbage

ในทางคณิตศาสตร์ ชาร์ลส แบบเบจ เน้นศึกษาด้านแคลคูลัสเป็นพิเศษ. ปี ค.ศ. 1816 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Fellow ของ Royal Society. ปี ค.ศ. 1820 เค้าตั้งชมรมด้านดาราศาสตร์ขึ้น พร้อมๆ กับเริ่มทำงานวิจัยสำคัญของเค้าในยุคต้น ที่ทำให้เค้าโด่งดังมากคือ Difference Engine (ใช้ Newton 's method of successive differences). ในปี ค.ศ.1828 แบบเบจได้รับแต่งตั้งให้เป็น the Lucasian Chair of Mathematics at Cambridge (เหมือนกับ เซอร์ ไอแซค นิวตัน และ สตีเฟ่น ฮอว์คิง) ต่อมา แบบเบจขยายงานมาศึกษาเครื่องวิเคราะห์ (Analytical Engine) เพื่อสร้างเป็น เครื่องจักรที่สามารถรองรับการคำนวณทุกชนิด (ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์) แต่ก็เป็นเพียงทฤษฏีเท่านั้น เพราะเค้าไม่สามารถสร้างออกมาในช่วงที่เค้ามีชีวิตอยู่ เนื่องจากมีคนไม่เห็นด้วยมากมาย เพราะความคิดเค้าทันสมัยเกินกว่าเทคโนโลยีในยุคนั้น จนทุกๆ คนคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ จึงโดนตัดงบวิจัยในปี ค.ศ. 1832.แต่แบบเบจก็ฝืนทำต่อแบบไม่มีงบ จนทำไม่ไหว จนต้องปิดโครงการนี้ไป ในปี ค.ศ. 1842.
2. Lady Augusta Ada Byron

เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Lady Augusta Ada Byron, Countess of Lovelace) โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกเอดา เลิฟเลซ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่น่าเรียนรู้ชีวประวัติท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้หญิงที่เก่งทั้งในด้านกาพย์กลอนและคณิตศาสตร์ และได้รับยกย่องให้เป็นนักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลกจากผลงานที่ท่านช่วยให้เครื่องจักร analytical engine ที่ออกแบบโดย ชาร์ลส์ แบบเบจ สามารถรับโปรแกรมและทำงานตามคำสั่งในโปรแกรมได้ โดยท่านได้เสนอเทคนิคการเขียนโปรแกรมแบบวนรอบซ้ำ ๆ ที่เรียกว่า loop การเขียนโปรแกรมแบบวนรอบบนี้สำคัญมาก เพราะถ้าหากไม่ใช้แนวคิดนี้แล้วโปรแกรมที่เขียนจะมีความยาวมาก และผิดพลาดได้ง่ายและการใช้โปรแกรมย่อย (subroutine) เพื่อคำนวณฟังก์ชันก์ย่อยที่ได้ใช้งานบ่อย ๆ ฝังอยู่ในโปรแกรมหลัก โปรแกรมหลักสามารถเรียกใช้โปรแกรมย่อยทำงานได้เลยโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมใหม่ ซึ่งในปัจจบนนี้ทุกภาษาต่างก็มีความสามารถในการวนซึ้า และการใช้โปรแกรมย่อย
3. Herman Hollerith
เฮอร์แมน Hollerith (Herman Hollerith)(1860-1929)
นักประดิษฐ์ โรงเรียนเหมือง 1879 ปริญญาเอก 1890
Herman Hollerith ได้รับการเรียกว่าวิศวกรสถิติครั้งแรกของโลกและเป็นพ่อของการประมวลผลสารสนเทศที่ทันสมัย เขาคิดค้นกดบัตรเพื่อบันทึกข้อมูลและเครื่องทำเป็นตารางและเรียงลำดับในการประมวลผลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แรงบันดาลใจสำหรับบัตรมาเป็น Hollerith สังเกตหลุมตัวนำรถรางหมัดในตั๋วโดยสาร เขาใช้เครื่องทำเป็นตารางของเขาในทอ Jacquard ซึ่งควบคุมการทอรูปแบบผ่านรูที่เกิดขึ้นในชุดของบัตร ส่งผลให้เทคโนโลยีบัตรเจาะที่ใช้ในคอมพิวเตอร์จนกระทั่งปี 1970
หลังจากทำงานในสหรัฐอเมริกาการสำรวจสำมะโนประชากร 1880 ซึ่งใช้เวลาเจ็ดปีให้เสร็จสมบูรณ์Hollerith ใช้สิ่งประดิษฐ์ของเขาสำหรับการสำรวจสำมะโนประชากร 1890 ที่เสร็จสมบูรณ์ในหกสัปดาห์ เครื่องยังทำให้เขาได้รับปริญญาเอกของเขาโคลัมเบียในปี 1890 และกลายเป็นพื้นฐานสำหรับการทำเป็นตารางเครื่อง บริษัท ที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 1896 การควบรวมไม่กี่และชื่อการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง บริษัท กลายเป็นนานาชาติเครื่อง Business Corporation ในปี 1924
4. Alan Turing
บิดาของวิทยาคอมพิวเตอร์-ค.ศ. 1954เป็นนักคณิตศาสตร์, นักตรรกศาสตร์, นักรหัสวิทยา และวีรบุรุษสงคราม ชาวอังกฤษ และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์-หลังสงครามโลก ทัวริง ได้ออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้โปรแกรมได้เป็น เครื่องแรก ๆ ของโลก ---ค.ศ.1952 ทัวริง ถูกจับกุมในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเด็กชาย-ค.ศ.1954 อลัน ทัวริง ได้เสียชีวิตลงที่เมืองวิล์มสโล ประเทศอังกฤษ -สงครามโลกครั้งที่สอง ทัวริงมีส่วนสำคัญในการแกะรหัสลับของฝ่ายเยอรมัน
ผลงานทฤษฎีความสามารถคำนวณได้ของคอมพิวเตอร์ (Computability) , การทดสอบความฉลาดของคอมพิวเตอร์ (Turing test)
ผลงานทฤษฎีความสามารถคำนวณได้ของคอมพิวเตอร์ (Computability) , การทดสอบความฉลาดของคอมพิวเตอร์ (Turing test)
5. Konrad Zuse
Konrad Zuse (1910- 1995) คือวันนี้เกือบจะเป็นเอกฉันท์ทั่วโลกเป็นผู้สร้างครั้งแรกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างอิสระในด้านเทคโนโลยีการสลับไบนารีและ Gleitpunktrechnung ที่ทำงานจริงๆได้รับการยอมรับในระยะสั้นเขาสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกที่การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ดิจิตอล Z3 . วันนี้ที่เราเรียกว่าเครื่องดังกล่าวเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่อง Z3 ได้รับการแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ 12 พฤษภาคม 1941 ในกรุงเบอร์ลินในทุกองค์ประกอบ ศาสตราจารย์ ฟลอริด้าบาวเออร์ (มิวนิค) เขียนเกี่ยวกับคอนราด Zuse: สร้างครั้งแรกอย่างอัตโนมัติโปรแกรมควบคุมและการดำเนินงานโปรแกรมได้อย่างอิสระในจุดลอยไบนารีหน่วยเลขคณิต พวกเขา (ระบบคอมพิวเตอร์ Z3) ได้ดำเนินการในปี 1941 หรือดังนั้นหนึ่งจะต้องมีการเขียนครั้งเดียวเมื่อหน้าอกคอนราดZuse ใน Walhalla ข้างของ Gregor Mendel และวิลเฮล์คอนราดเรินต์เก
6. Prof. Howard H. Aiken
1937 : โฮเวิร์ด เอช ไอเคน (Professor Howard H. Aiken) ศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard) เป็นผู้ออกแบบและสร้างเครื่องคำนวณตามหลักการของแบบเบจได้สำเร็จ โดยนำเอาแนวคิดของ Jacquard และ Hollerith มาใช้ในการสร้างและได้รับการสนับสนุนจากวิศวกรของบริษัทไอบีเอ็ม สร้างสำเร็จในปี ค.ศ. 1943 ในชื่อว่า Automatic Sequence Controlled Calculator (ASCC) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า MARK I Computer นับเป็นเครื่องคำนวณเครื่องแรกของโลกที่ทำงานโดยอัตโนมัติทั้งเครื่อง จัดเป็น Digital Computer และเป็นเครื่องที่ทำงานแบบ Electromechanical คือเป็นแบบ กึ่งไฟฟ้ากึ่งจักรกล
1953 : บริษัทไอบีเอ็ม สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกคือ IBM 701 และในปี ค.ศ. 1954 สร้างเครื่อง IBM 650 และเป็นแบบที่ใช้กันแพร่หลายในระยะ 5 ปีต่อมา เป็นเครื่องที่ใช้หลอดสุญญากาศ ต่อมาปรับปรุงดัดแปลงมาใช้วงแหวนแม่เหล็ก (Magnetic Core) เป็นวงแหวนเล็ก
7. Dr. John V. Atanasoff & Clifford Berry
Dr. John V. Atanasoff & Clifford Berry
Dr. John Vincent Atanasoff และ Clifford Berry ได้สร้างเครื่อง ABC ( Atanasoft-Berry Computer )โดยใช้หลอดสูญญากาศ ( vacuum tubes) และในปี พ.ศ. 2483 Dr.John W. Mauchy และ J. Presper Eckert Jr. พัฒนาเพิ่มเติมบนหลักการออกแบบพื้นฐานของ Dr. Atanasoff เพื่อสร้าง electronic computer เครื่องแรกชื่อENIAC แต่ยังไม่เป็นคอมพิวเตอร์ชนิดเก็บโปรแกรมได้ ( stored program ) จึงได้รับการพัฒนาเป็นเครื่องEDVAC ซึ่งอาศัยหลักการ stored program สมบูรณ์และได้มีการพัฒนาเป็นเครื่อง EDSAC และพัฒนาเป็นเครื่องUNIVAC ( Universal Automatic Computer ) ในที่สุด
8. Dr. John W. Mauchly & J. Presper Eckert
Dr. John W. Mauchly & J. Presper Eckert ปี พ.ศ. 2483 Dr.John W. Mauchy และ J. Presper Eckert Jr. ได้ร่วมกันพัฒนา electronic computer โดยอาศัยหลักการออกแบบบนพื้นฐานของ Dr. Atanasoff electronic computer เครื่องแรกมีชื่อว่าENIAC แม้จะเป็นelectronic computer แต่ENIACก็ยังไม่สามารถเก็บโปรแกรมได้(stored program) จึงได้มีการพัฒนาเป็นเครื่อง EDVAC ซึ่งอาศัยหลักการ stored program สมบูรณ์และได้มีการพัฒนาเป็นเครื่อง EDSAC และท้ายสุดก็ได้พัฒนาเป็นเครื่องUNIVAC(Universal Automatic Computer) ในเวลาต่อ
9. Dr. John Von Neumann
ในปี ค.ศ. 1944 เขาได้คิดหลักการ "MAD" (mutually assured destruction) อาจแปลไทยได้เป็น "รับรองได้ว่าเจ๊งไปด้วยกันทั้งคู่แน่" ซึ่งเป็นหลักการซึ่งใช้เป็นหลักสำคัญ ในการวางแผนกลยุทธ์ทางด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น นอยมันน์เป็นคนคิด สถาปัตยกรรมแบบ ฟอน นอยมันน์ ซึ่งใช้กันในคอมพิวเตอร์ (แบบที่ไม่ได้ประมวลผลแบบขนาน) ส่วนใหญ่ พูดได้ว่า คอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดในโลกนี้ เป็นเครื่องจักรแบบ ฟอน นอยมันน์ เขาเป็นผู้ริเริ่มสาขา cellular automata และได้สร้างตัวอย่างชุดแรกของ self-replicating automata โดยใช้แค่กระดาษกราฟ กับ ดินสอธรรมดาๆ (ไม่มีคอมพิวเตอร์ช่วยเลย) คำว่า เครื่องจักรแบบ ฟอน นอยมันน์ ยังหมายความถึง เครื่องจักรที่สร้างตนเองซ้ำได้ (self-replicating machine)
10. Dr. Ted Hoff
ตอนอายุ 15 เขาจะเดินทางไปกรุงวอชิงตันดีซีและทุนการศึกษา $ 400 จากค้นหาเวสติวิทยาศาสตร์สามารถในช่วงฤดูร้อนห่างจากวิทยาลัยเขาทำงานทั่วไปสัญญาณของ บริษัท รถไฟในโรเชสเตอร์ที่เขาได้รับการออกแบบสองวงจรที่ผลิตสิทธิบัตรของเขาสองคนแรก. (4) หนึ่งรถไฟตรวจพบวงจรผ่านความถี่เสียงที่ส่งไปตามเส้นทางรถไฟ อีกหนึ่งพลังงานที่ดูดซับเพื่อป้องกันฟ้าผ่า เข้าไป Stanford เป็นเพื่อนแห่งชาติมูลนิธิวิทยาศาสตร์ในปี ค.ศ. 1955 ระหว่างกันยายน 1968 และเมษายน 1969 เทดฮอฟฟ์เริ่มพัฒนาครอบครัวของชิปให้กับ บริษัท เครื่องคิดเลขญี่ปุ่น ชิปเหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องคิดเลขที่จะออกมาภายใต้แบรนด์ที่เรียกว่า Busicomเมื่อตอนที่เขาแนะนำให้วิศวกรญี่ปุ่นที่จะทำให้การใช้งานที่ดีขึ้นของหน่วยความจำโดยลดความซับซ้อนของการทำงานที่ญี่ปุ่นไม่ได้สนใจในการทำการเปลี่ยนแปลง แต่บ๊อบ Noyce บอกเขาว่าสแตนและมาซูร์จะไปข้างหน้าและสิ่งที่ส่งผลให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทั่วไป เท็ดฮอฟฟ์ยังได้พัฒนาชุดคำสั่งสำหรับคอมพิวเตอร์ว่าสิ่งที่เป็นหลักกลายเป็นชุดคำสั่งสำหรับไมโครโปรเซสเซอร์ 4004 ตั้งแต่ทั้งฮอฟฟ์และมาซูไม่ค่อยจะรู้เรื่องของเทคโนโลยี CMOS มันเป็น Federico Faggin ได้รับชิปซิลิกอนในปี 1971 ความสำเร็จ อินเทล 4004: Intel 4004 คอมพิวเตอร์ "" บนชิปร่วมคิดค้น
11. Steve Jobs & Steve Wazniak
สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs)ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิล II (Apple II) ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นกับผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล สตีฟ วอซนิแอ็ค (Steve Wozniak) ในโรงรถ และได้วางขายเมื่อปี ค.ศ. 1977 ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IMB ต้องกระวนกระวายรีบพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของตัวเองเพื่อวางขายบ้าง
12. Bill Gates

บิล เกตส์ เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับพอล แอลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิล เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น